เครื่อง CPAP ต่างกับ BiPAP ยังไง ?

เครื่อง CPAP ต่างกับ BiPAP ยังไง

ในปัจจุบัน อาการนอนกรนหรือภาวะการหยุดหายใจขณะนอนหลับ จัดว่าเป็นปัญหาที่สามารถเกิดขึ้นได้กับผู้คนทุกเพศ ทุกวัย แต่คนส่วนใหญ่ไม่ได้ให้ความสำคัญมากนัก รู้ตัวอีกทีก็อาการเริ่มที่จะหนักแล้ว แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีทางแก้ปัญหาไปซะเลยทีเดียว เครื่อง BiPAP กับ CPAP เป็นอุปกรณ์ที่ใช้รักษาภาวะอุดกั้นทางเดินหายใจที่ได้รับความนิยม และรวดเร็ว สามารถช่วยแก้อาการกรน นอนหลับไม่สนิทและหายใจไม่ออกได้อย่างดี แต่ถึงอย่างนั้น คนส่วนใหญ่มักจะแยกความแตกต่างของเครื่อง BiPAP และ CPAP กันไม่ออก บทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกับทั้ง 2 ตัวว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร รวมถึงอุปกรณ์ไหนเหมาะกับเรามากกว่ากัน ซึ่งโดยปกติแล้วเครื่อง CPAP กับ BiPAP แทบจะไม่ได้แตกต่างกันเลย ทั้งคู่เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยเรื่องการนอนกรนและโรคหยุดหายใจขณะนอนหลับเหมือนกัน เราใช้เพื่อเข้ามาช่วยให้ผู้ป่วยหายใจได้โล่งและสะดวกขึ้น แตกต่างกันเพียงแค่วิธีการใช้และหลักการทำงานของตัวเครื่องเท่านั้น 

CPAP คืออะไร

CPAP หรือ Continuous Positive Airway Pressure เป็นเครื่องมือหนึ่งที่ช่วยรักษาอาการกรน และโรคหยุดหายใจในขณะนอนหลับ การที่นำเครื่องนี้เข้ามาช่วยทำให้การนอนหลับสบายขึ้น หายใจได้สะดวกมากขึ้น และ ลดความเสี่ยงจากการเป็นโรคทางเดินหายใจตีบได้อีกด้วย โดยตัวเครื่องจะส่งแรงดันอากาศแรงดันบวกแบบระดับเดียวไปสู่ตัวผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยสามารถหายใจได้สะดวกขึ้น

ใครที่จำเป็นต้องใช้เครื่อง CPAP

เหมาะสำหรับบุคคลที่แพทย์วินิจฉัยว่าจำเป็นต้องใช้เครื่อง CPAP นอกจากจะช่วยผู้ที่มีอาการกรนและการหยุดหายใจขณะนอนหลับแล้ว ยังช่วยให้ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับทางเดินหายใจ สามารถหายใจได้สะดวกขึ้น รวมถึงอาการ ผู้ที่มีร้อนในภายในคอ ผู้ที่หยุดหายใจขณะนอนหลับ เกิดจากการอุดตันทางเดินหายใจขณะหลับ ผู้ที่เกิดปัญหาในการควบคุมการหายใจขณะนอนหลับ อีกด้วย

หลักการทำงานของเครื่อง CPAP

ตัวเครื่องจะส่งแรงดันอากาศแรงดันบวกเข้าไปผ่านโพรงจมูกของผู้ป่วย เพื่อให้ทางเดินหายใจเปิด และช่วยป้องกันไม่ให้บริเวณทางเดินหายใจปิดหรือยุบตัวลงมาปิดทางเดินหายใจอีกด้วย

เครื่อง CPAP มีกี่ประเภท

1. CPAP แบบปรับแรงดันอัตโนมัติ (Auto CPAP)

เครื่องประเภทนี้เป็นเครื่องที่สามารถปรับแรงดันอากาศที่เหมาะสมกับเราให้โดยอัตโนมัติ ควรให้แพทย์เป็นคนตั้งค่าให้เพื่อความแม่นยำและป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้น เนื่องจากตัวเครื่องจะปรับค่าแรงดันลมแบบอัตโนมัติจากที่กำหนดช่วงค่าเอาไว้ แล้วยังจัดได้ว่าเป็นเครื่องที่สะดวกสบายมากกว่าเครื่องCPAPแบบคงที่

2. CPAP แบบแรงดันคงที่ (Manual / Fixed CPAP)

CPAP ที่จ่ายแรงดันคงที่ตลอดทั้งคืน ไม่ปรับระดับไปเองระหว่างที่นอนหลับเพื่อเปิดช่องทางเดินหายใจส่วนบน  เหมาะกับผู้ป่วยที่มีอาการคงที่ และทราบผลการรักษาที่แน่นอน ทำให้อากาศเข้าสู่ร่างกายได้ตามปกติ โดยราคาจะประหยัดกว่าประเภทอื่นๆ

BiPAP คืออะไร

BiPAP หรือ two-level Positive Airway Pressure (Bilevel) คือ เครื่องช่วยหายใจแรงดันบวกชนิด 2 ระดับ สามารถตั้งให้ระดับแรงหายใจเข้าและหายใจออกแตกต่างกันได้  

ใครจำเป็นต้องใช้เครื่อง BiPAP

เครื่อง BiPAP เหมาะกับคนที่มีอาการกรนขั้นรุนแรงหรือคนที่มีภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ และมักใช้กับผู้ที่ต้องการการช่วยหายใจเป็นพิเศษ ส่วนมากใช้ในผู้ป่วยที่เกิดความผิดปกติจากระบบประสาทและปอดซับซ้อนกว่าปกติ ที่จำเป็นต้องใช้แรงดันสูงๆเพื่อรักษาให้อาการคงที่มากขึ้น ส่วนมากเป็นคนที่เคยใช้เครื่องCPAPมาก่อน

หลักการทำงานของเครื่อง BiPAP

มีการปรับความดันในอากาศระหว่างจังหวะการหายใจเข้าและหายใจออกที่แตกต่างกัน เพื่อให้เอื้อต่อตัวผู้ป่วย โดยถ้าความดันสูงเมื่อหายใจเข้าและความดันต่ำเมื่อหายใจออก

ความแตกต่างของเครื่อง CPAP และ BiPAP

เครื่อง CPAP และ BiPAP แทบจะไม่มีความแตกต่างกันมาก ทั้งอุปกรณ์ รูปร่างหน้าตา วิธีการใช้ แต่มีเพียงแค่จุดประสงค์ที่แตกต่างกันเท่านั้น โดย

เครื่อง CPAP:  ใช้แรงดันที่คงที่ขณะทั้งหายใจเข้าและหายใจออก ใช้รักษากับผู้ป่วยที่ไม่ต้องการแรงดันรักษาที่สูงมากนัก

เครื่องBiPAP: ใช้แรงดันตามจังหวะการหายใจเข้าและหายใจออกของตัวผู้ป่วย ใช้รักษาผู้ป่วยที่ต้องการแรงดันการรักษาที่สูง ใช้รักษาภาวะหยุดหายใจขณะหลับที่ซับซ้อนมากขึ้น

จากที่กล่าวมาข้างต้น ผู้ป่วยจะรู้ว่าเหมาะกับเครื่องCPAP ประเภทไหนหากทำ Sleep test และได้รับคำแนะนำจากแพทย์เรียบร้อยแล้ว เพราะจะทำให้เราทราบระดับแรงดันที่เหมาะสมต่อการรักษาของเราได้ และสามารถทำให้เราเลือกเครื่องที่เหมาะสมกับเราอีกด้วยทั้งนี้ทั้งเครื่อง CPAP และ BiPAP แม้จะไม่ได้มีความแตกต่างกันมากนัก แต่ควรเลือกใช้เครื่องที่เหมาะสมกับการรักษาของตัวเอง เพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพและช่วยให้การรักษาราบรื่นมากขึ้น